1、ความสามารถในการแนะนำสินค้าก่อนการขาย #
ตั้งแต่ผู้บริโภคเข้าสู่ร้าน ShopMate ก็สามารถให้ความช่วยเหลืออย่างชาญฉลาดตลอดกระบวนการ
ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหน้าต่างป๊อปอัพแนะนำเพื่อดึงดูดความสนใจ, การแนะนำสินค้า, การเปรียบเทียบ, การตอบคำถามรายละเอียด หรือการแสดงส่วนลดต่าง ๆ ก็จะถูก Bot จัดเตรียมให้อย่างเหมาะสมและอัตโนมัติ
ด้วยวิธีนี้ คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่าทุกรายการซ้ำ ๆ เพราะ ShopMate จะช่วยผู้บริโภคในการทำความเข้าใจสินค้า เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และรับส่วนลดได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น
1.1、การแสดงหน้าต่างป๊อปอัปเชิงรุก 【อยู่ระหว่างพัฒนา เตรียมเปิดใช้งาน】 #
เมื่อผู้บริโภคเข้าสู่หน้าโฮมเพจหรือหน้ารายละเอียดสินค้าในร้านค้า Bot จะสามารถแสดงหน้าต่างป๊อปอัปอัตโนมัติ เพื่อแนะนำสินค้า โปรโมชั่น หรือกิจกรรมต่าง ๆ ดึงดูดความสนใจของลูกค้า และช่วยปูทางสำหรับการตัดสินใจซื้อได้ทันที

1.2、การแนะนำสินค้า #
ไม่ต้องตั้งค่าซ้ำให้ยุ่งยาก ระบบสามารถแนะนำสินค้า Top 3 ได้อย่างชาญฉลาดตามความต้องการของลูกค้า พร้อมดึงข้อมูลสินค้าอัตโนมัติ เน้นจุดขายหลักอย่างชัดเจน ข้อมูลเป็นโครงสร้างที่อ่านง่าย ไม่ใช่ข้อความยาว ๆ น่าเบื่อ ทำให้ลูกค้าเข้าใจและตัดสินใจได้เร็วขึ้น ทุกการแนะนำจึงน่าเชื่อถือและทรงพลังมากขึ้น
YouTube:https://youtu.be/CMz0H4jKgeM
โดยระบบจะเลือกแนะนำสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าโดยอัตโนมัติ
1.3、การเปรียบเทียบสินค้า #
ออกแบบมาเพื่อลูกค้าที่ลังเลโดยเฉพาะ ไม่ต้องตั้งค่าล่วงหน้า ระบบจะจัดทำตารางเปรียบเทียบสินค้าแบบเรียลไทม์ แสดงจุดแตกต่างของแต่ละสินค้าอย่างชัดเจน ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นและมั่นใจมากขึ้น
YouTube:https://youtu.be/V1Adc-8IwUE
แสดงตัวอย่างขั้นตอนเปรียบเทียบสินค้าหลาย ๆ แบบ
1.4、การตอบคำถามรายละเอียดสินค้า #
เพียงแค่มีข้อมูลสินค้าในระบบ ShopMate จะสามารถดึงข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งานได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าล่วงหน้า ระบบสามารถวิเคราะห์และเข้าใจรายละเอียดสินค้าได้อย่างแม่นยำ พร้อมตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลสินค้าในทุกด้าน ช่วยลดข้อกังวลในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพิ่มความต้องการซื้อสินค้า และช่วยให้ทีมขายสามารถปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง
YouTube:https://youtu.be/rb5SDCgwC5c
สาธิตการเปรียบเทียบสินค้าเพิ่มเติม เช่น ราคา วัสดุ สไตล์ และคุณภาพ
YouTube:https://youtu.be/1wr6rL0oSKM
1.5、 โปรโมชั่นส่วนลด #
ไม่ต้องตั้งค่าใดๆ เมื่อผู้บริโภคเริ่มต่อรองราคา ShopMate จะดึงข้อมูลโปรโมชั่นและรหัสส่วนลดที่ตั้งค่าไว้ใน Shopify มาแสดงให้ผู้ใช้เห็นทันที ช่วยให้การซื้อขายสำเร็จได้อย่างราบรื่น

2、การตรวจสอบคำสั่งซื้อ #
เราทราบดีว่าผู้บริโภคมักต้องการตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อของตนได้ตลอดเวลา
ไม่ต้องตั้งค่าใดๆ ShopMate จะทำการซิงค์ข้อมูลคำสั่งซื้อร้านค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยอัตโนมัติ ผู้บริโภคเพียงกรอกหมายเลข ID หรืออีเมล ก็สามารถรับข้อมูลสถานะคำสั่งซื้อและการจัดส่งล่าสุดได้ทันที
3、การตอบคำถามในสถานการณ์ทั่วไป (นโยบาย, คำถามที่พบบ่อย) #
เพื่อการตอบคำถามที่พบบ่อยของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เช่น นโยบายร้านค้า การจัดส่ง การคืนสินค้าและเปลี่ยนสินค้า หรือกิจกรรมอื่น ๆ เรามีฟังก์ชันคลังความรู้ Q&A ที่ช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าคลังความรู้ของคุณได้อย่างง่ายดาย
3.1、การตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบาย #
คุณจำเป็นต้องตั้งค่าคลังความรู้ Q&A ล่วงหน้า สามารถดูขั้นตอนการดำเนินการได้ด้านล่าง [เวอร์ชันออนไลน์] ไม่ต้องตั้งค่า Bot จะดึงข้อมูลนโยบายร้านค้าของคุณจาก Shopify อัตโนมัติ (เช่น การคืนสินค้า กฎการจัดส่ง และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย) เพื่อให้คำตอบที่ถูกต้องและทันเวลาสำหรับลูกค้า [กำลังจะเปิดให้ใช้งานสัปดาห์นี้]

3.2、วิธีการตั้งค่า Q&A ความรู้ #
นำเข้า #
ที่หน้าแรก ค้นหา Bot ของคุณ แล้วเปิด Q&A ความรู้

- คลิกนำเข้า แล้วทำตามคำแนะนำ


- สามารถนำเข้าจากแหล่งความรู้อื่นในคลังความรู้ที่เชื่อมโยงได้เช่นกัน


การเพิ่ม ลบ ค้นหา และแก้ไขในภายหลัง #
- หลังจากนำเข้าเรียบร้อยแล้ว สามารถค้นหาหรือแก้ไขความรู้ในหน้าความรู้ Q&A ได้ โดยคลิกที่ความรู้แต่ละรายการเพื่อแก้ไข รวมถึงการเพิ่มรูปภาพด้วย

3.3、การต้อนรับแบบพูดคุยทั่วไปและการชี้แจงคำถาม #
Bot สามารถสนทนาอย่างชาญฉลาด (เช่น การทักทาย) และยืนยันคำถามที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม ทำให้บทสนทนาดูเป็นธรรมชาติและราบรื่นมากขึ้น
4、การทำงานร่วมกันระหว่างบอทและเจ้าหน้าที่ (ระบบเปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่อัตโนมัติ) #
เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการให้บริการและความพึงพอใจของลูกค้า ShopMate สามารถตรวจจับบทสนทนาที่มีความเสี่ยงหรือช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือได้อย่างชาญฉลาด พร้อมแสดงช่องทางการติดต่อของร้านค้า เช่น อีเมล หรือ WhatsApp ให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้อย่างสะดวก
การควบคุมความเสี่ยง | เงื่อนไขการทริกเกอร์ | วิธีการโอนให้เจ้าหน้าที่ | Tips |
ไม่ตอบคำถามที่อยู่นอกเหนือจากข้อมูลในคลังความรู้ | หากคำถามของลูกค้าอยู่นอกเหนือขอบเขตที่บอตสามารถตอบได้ (ไม่ได้อยู่ในคลังความรู้ที่ตั้งค่าไว้ และไม่อยู่ในข้อมูลจาก Shopify) | ระบบจะให้ข้อมูลติดต่อร้านค้าโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ลูกค้าติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น | เพื่อรับประกันประสบการณ์การให้บริการฟังก์ชันนี้ถูกฝังไว้ในระบบและไม่สามารถปิดใช้งานได้ |
การตรวจจับอารมณ์ผิดปกติของลูกค้า | Botตรวจจับสัญญาณอารมณ์เชิงลบอย่างรุนแรงจากผู้บริโภค (เช่น มีคำพูดหรือเสียงที่แสดงถึงความโกรธ ความวิตกกังวล หรือการร้องเรียน) | เพื่อรักษาคุณภาพการให้บริการ ฟีเจอร์นี้ถูกตั้งค่าไว้ในระบบและไม่สามารถปิดได้ | |
เมื่อลูกค้าให้คะแนนไม่พอใจ ระบบจะโอนสายไปยังเจ้าหน้าที่ทันที | ลูกค้าไม่พอใจกับคำตอบของ Bot (เช่น กดปุ่มไม่ชอบ) | ฟีเจอร์“กดไม่ชอบแล้วโอนให้เจ้าหน้าที่”เป็นตัวเลือกที่ผู้ขายสามารถเปิดหรือปิดได้ตามความต้องการ | |
ลูกค้าเป็นฝ่ายขอเปลี่ยนคุยกับเจ้าหน้าที่ | ลูกค้าเป็นฝ่ายพูดคำว่า “เปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่” หรือ “ฝ่ายบริการลูกค้า” เป็นต้น | เพื่อรับประกันประสบการณ์การให้บริการฟีเจอร์นี้ถูกฝังไว้ในระบบและไม่สามารถปิดได้ |

4.2、การควบคุมความเสี่ยง: การตรวจจับอารมณ์ผิดปกติของผู้บริโภค (showcase) #
YouTube:https://youtu.be/hPT0y5tcbDM
4.3、การควบคุมความเสี่ยง: กรณีผู้บริโภคกดไม่ชอบแล้วเปลี่ยนเป็นบริการคนจริง (showcase) #
YouTube:https://youtu.be/ivylqQDAyf0
4.4、การควบคุมความเสี่ยง: กรณีผู้บริโภคกล่าวขอเปลี่ยนไปพบเจ้าหน้าที่บริการคนจริง (showcase) #
YouTube:https://youtu.be/yORlCfCTQHo
4.5、การตั้งค่าและการกำหนดค่า #
ในส่วนการตั้งค่า “Bot Configuration” โดยค่าเริ่มต้น Bot จะเปลี่ยนไปพบเจ้าหน้าที่คนจริงอัตโนมัติเมื่อเจอคำถามที่อยู่นอกความรู้ หรือเมื่อพบว่าผู้บริโภคมีอารมณ์ผิดปกติ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าเปิดหรือปิดฟังก์ชัน “เปลี่ยนไปพบเจ้าหน้าที่คนจริงเมื่อผู้บริโภคกดไม่ชอบ (Dislike)” ได้ด้วยตัวเอง

คุณสามารถกำหนดข้อความสำหรับการเปลี่ยนไปยังเจ้าหน้าที่คนจริงและตั้งค่าช่องทางการติดต่อเองได้
โดยช่องทางการติดต่อหลักที่สามารถตั้งค่าได้ ได้แก่ อีเมลและ WhatsApp
ฟังก์ชันนี้จะปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น ต้องให้คุณเปิดใช้งานด้วยตัวเองและใส่ข้อมูลติดต่อก่อน Bot จึงจะแนบข้อมูลเมื่อเปลี่ยนไปพบเจ้าหน้าที่
แนะนำให้ใช้โทนภาษาที่กระชับและเป็นมิตร เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้รับความใส่ใจและดูแลอย่างดี
คุณสามารถใช้โครงสร้างประโยคตัวอย่างดังนี้:
Please give me a moment to transfer you to another specialist.
Let me connect you with a human agent who can help you further.
It seems I’m not trained to answer this. Let me transfer you to a specialist.

5、ตรรกะการตอบคำถามแบบหลายภาษา #
ระบบสามารถตรวจจับการตั้งค่าภาษาดีฟอลต์ของเบราว์เซอร์ผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ และสลับไปใช้ภาษาที่ตรงกันในการสื่อสารโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เกิดประสบการณ์การโต้ตอบแบบ “ไม่มีอุปสรรค” อย่างเป็นธรรมชาติ
5.1、การตรวจจับภาษาของเบราว์เซอร์อัตโนมัติ #
showcase: เมื่อระบบตรวจจับได้ว่าภาษาของเบราว์เซอร์ของผู้บริโภคเป็นภาษาอังกฤษ AI จะเปลี่ยนไปใช้การสนทนาเป็นภาษาอังกฤษทันที เพื่อให้ผู้ใช้ไม่มีอุปสรรคด้านภาษา เพิ่มความพึงพอใจและอัตราการเปลี่ยนแปลงยอดขาย

5.2、ความสามารถในการสลับภาษาแบบเรียลไทม์ #
showcase: ในระหว่างการสนทนา ผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนภาษาตามต้องการได้ตลอดเวลา AI จะรับรู้และตอบสนองอย่างชาญฉลาดทันที รองรับการสลับภาษาหลายภาษาอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้การสื่อสารราบรื่นเป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสบการณ์ผู้ใช้ได้อย่างมาก
